ข้อมูลของฉัน

รูปภาพของฉัน
นางสาวสุธิพร ผมปัน รหัสนักศึกษา 51031390186 สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ศึกษา คณะครุศาสตร์

วันจันทร์ที่ 24 กันยายน พ.ศ. 2555

งานง่าย ได้เงินเยอะ...แท็กลวงคนฝันหวาน อยากรวยเร็ว




 ในยุคที่โซเชียลเน็ตเวิร์กเข้าถึงผู้คนได้จำนวนมหาศาลเช่นนี้ หลาย ๆ ธุรกิจก็ได้มองเห็นช่องทาง และเลือกใช้  "การโฆษณา" ผ่านเครื่องมือในโลกไซเบอร์กันอย่างมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่ระยะหลัง ๆ มานี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ตลอดจนโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่น ๆ มักจะถูกติดแท็ก ด้วยข้อความโฆษณาสุดแสนจะล่อใจที่ชวนให้มาสร้างรายได้เสริมอย่างเป็นกอบเป็นกำภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง กับงานสบาย ๆ รายได้งาม ที่ผู้ติดแท็กเสนอให้ หากมองดูเผิน ๆ ก็ดูน่าสนใจไม่น้อย แต่ถ้าพิจารณาและหาข้อมูลเชิงลึกแล้ว จะรู้ว่า นี่คือกลลวง!

            เมื่อวันที่ 24 กันยายน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ได้นำเสนอบทความที่น่าสนใจเรื่อง "ฝันสลาย วัยรุ่น พันล้าน" เพื่อตีแผ่ความจริงของโฆษณาชวนเชื่อที่ระบาดไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ตในขณะนี้ โดยระบุว่า คนกลุ่มนี้ซึ่งทำกันเป็นขบวนการที่ใหญ่มาก เอาคำว่า "ขายตรง" มาบังหน้า แต่จริง ๆ แล้ว มีการดำเนินงานเป็นธุรกิจเครือข่ายด้านมืด โดยหลอกล่อ "เหยื่อ" ซึ่งพุ่งเป้าไปยังกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา คนรุ่นใหม่ที่ฝันอยากเป็นเศรษฐีเร็ว ๆ ให้มาติดกับ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้พวกเขาเอง มากกว่าการมุ่งขายสินค้าในเครือข่ายอย่างที่ทำกันตามปกติ

            ทั้งนี้ กระบวนการดังกล่าวเริ่มต้นจากการชักชวน "เหยื่อ" ที่สนใจอยากมีรายได้งาม ๆ มาร่วมประชุมกับองค์กรก่อน ซึ่งจะต้องเสียเงินค่าเรียน และต้องมาร่วมประชุมหลาย ๆ ครั้ง แน่นอนว่า สิ่งที่ได้จากการประชุมแต่ละครั้งก็คือ การถูกกรอกหูด้วยคำพูดสร้างแรงบันดาลใจ อย่างเช่น อย่าคิดแต่แบมือขอเงินพ่อแม่ หรือ ทำงานกินเงินเดือนแบบนี้อีกกี่สิบปีถึงจะรวย แต่หากทำงานกับเราไม่กี่เดือนก็มีเงินเป็นกอบเป็นกำแซงหน้าเพื่อน ๆ ได้แล้ว ฯลฯ 






           หนำซ้ำ หลายองค์กรยังเชิญคนมีชื่อเสียงมาช่วยพูดกระตุ้นแรงบันดาลใจให้ผู้ฟัง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้องค์กรด้วย ทำให้วัยรุ่นที่ฝันจะเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืนหลายคนหลงเชื่อเอาได้ง่าย ๆ พร้อมกับยินยอมควักเงินหลักหมื่นออกจากกระเป๋า เพราะตามวิธีการขององค์กรที่หลอกแบบเนียน ๆ ไม่ทัน
            นอกจากกรณีแท็กโฆษณาข้างต้นแล้ว ยังมีกรณีเฟซบุ๊กถูกแฮก ที่เครือข่ายธุรกิจด้านมืดได้ใช้วิธีเอาของฟรีมาล่อผู้เล่นเฟซบุ๊ก ด้วยการชักชวนให้ผู้ที่สนใจสมัครร่วมกิจกรรมต้องล็อกอินเฟซบุ๊กก่อน ซึ่งหลายคนที่ได้ล็อกอินเข้าไปแทบไม่รู้ตัวเลยว่า ได้ยื่นพาสเวิร์ดของตัวเองเข้าปากเสือเสียแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ การล้วงข้อมูลในเฟซบุ๊ก เพื่อทำการกระจายโฆษณาต่อกันไปเป็นทอด ๆ จึงเกิดขึ้นโดยไม่มีที่สิ้นสุด

            หลังจากเกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้น ทางเฟซบุ๊กก็ได้สั่งปรับระบบใหม่ เพื่อจัดการกับโฆษณาเหล่านี้ ซึ่งก็ได้ผลในระดับหนึ่ง แต่กลุ่มเครือข่ายธุรกิจด้านมืดก็เปลี่ยนไปใช้วิธีตั้ง "กรุ๊ปแชท" แทน พร้อมกับพยายามหาคนมาเข้าร่วมกลุ่มให้ได้จำนวนมาก ๆ แน่นอนว่า พวกเขาก็ยังใช้วิธีเดิม ๆ คือ ชวนให้ผู้สนใจมาประชุม ฟังคำพูดสร้างแรงบันดาลใจ ก่อนจะใช้คำพูดหว่านล้อม โน้มน้าวให้ "เหยื่อ" ยอมควักเงินทำธุรกิจแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
            แม้กลโกงเหล่านี้จะถูกแฉ และตีแผ่ให้เห็นเบื้องลึกเบื้องหลังกันมากขึ้น แต่เชื่อเถอะว่า เครือข่ายธุรกิจด้านมืดคงจะมีช่องทางอื่น ๆ มาหา "เหยื่อ" คนใหม่ ๆ ต่อไปอีก ซึ่งหลายคนที่คิดไม่ทัน หรือคิดว่า "งานสบาย รายได้งาม" มีอยู่จริง ก็อาจถูกหลอกเอาง่าย ๆ แต่ถ้าใครกำลังอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็ขอให้ลองตรองดูเถอะว่า งานสบาย ๆ ที่ทำเพียง 2 - 3 ชั่วโมงก็ได้เงินมาก ๆ อย่างที่เขาโฆษณากันนั้น มันมีอยู่จริง ๆ หรือ แล้วถ้ามีจริง ๆ ทุกคนคงแห่กันไปทำหมดแล้ว คงไม่มีใครยอมมานั่งทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต เหมือนอย่างที่เป็นอยู่เช่นนี้แน่ ๆ เพราะใคร ๆ ก็ต้องการความสบายจริงไหม? เพราะฉะนั้น คำพูดเหล่านี้เป็นแค่การโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้นเอง

            ถ้าหากเรามี "สติ" ไม่หลงไปเชื่อคำพูดสวยหรูดูน่าฟัง ไม่ว่าเครือข่ายไหนจะงัดกลยุทธใด ๆ ออกมาใช้ ก็คงไม่สามารถลากให้เราเข้าไปเป็น "เหยื่อ" ได้แน่นอน

วันศุกร์ที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2555

สยอง พยาธิชุมนุมลำไส้ เรื่องใกล้ตัวที่คนนึกไม่ถึง




อาหารสุก ๆ ดิบ ๆ อาจเป็นอาหารจานโปรดของคนไทยหลายคน แต่เชื่อเถอะว่า ถ้าคุณได้ชมรายการตีสิบ ที่ออกอากาศเมื่อวันที่ 18 กันยายนที่ผ่านมา อาจเข็ดขยาดอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ไปอีกนาน เพราะอาหารเหล่านี้เต็มไปด้วย “พยาธิ” ที่เข้าสู่ร่างกายของคนได้อย่างที่เราคาดไม่ถึง
ทั้งนี้ รายการตีสิบ ได้นำคลิปที่แพทย์ผ่าตัดนำพยาธิออกจากร่างกายมนุษย์มาให้ชมกัน ซึ่งภาพดังกล่าวเป็นที่น่าขยะแขยงเป็นอย่างมาก เพราะพยาธิในลำไส้มีขนาดใหญ่ และยาวมากจนน่าตกใจ อีกทั้งยังมีจำนวนมากจนไม่น่าเชื่อ ทำเอาผู้ที่ชมคลิปตกตะลึงไปตาม ๆ กัน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ รศ.ดร.นพ.เผด็จ สิริยะเสถียร หัวหน้าภาควิชาปรสิทวิทยา คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ให้ความรู้ว่า เมื่อพยาธิเข้าไปอยู่ในลำไส้ของมนุษย์ ตัวเมียจะออกไข่วันละ 250,000 ใบ และปนออกมากับอุจจาระ เมื่อคนไปถ่ายอุจจาระลงตามพื้นดิน หรือนำอุจจาระไปทำเป็นปุ๋ย ไข่ของพยาธิที่แฝงตัวอยู่ก็จะตกลงบนพื้นดินปะปนกับพืชผักต่าง ๆ ที่เราบริโภค หรืออาจติดมือคนมาแล้วนำเข้าปากได้
สำหรับไข่พยาธินั้นมีขนาดเล็กมาก มองด้วยตาเปล่าไม่เห็น เพราะมีขนาดเพียง 60 ไมครอน ถ้าอยากรู้ว่ามีขนาดประมาณเท่าไหร่ ก็ลองแบ่ง 1 มิลลิเมตร แบ่งออกมาเป็น 1000 ส่วน ขนาดของไข่พยาธิคิดเป็น 60 ส่วนใน 1000 ส่วนเท่านั้น โดยพยาธิตัวเมียจะมีขนาดใหญ่กว่าตัวผู้ และมีหางตรง ขณะที่พยาธิตัวผู้จะตัวเล็กกว่า และมีหางโค้งงอ ซึ่งเราควรรู้ไว้ เพราะบางทีพยาธิอาจจะออกมากับอุจจาระ หรือเคลื่อนขึ้นมาที่คอ แล้วไอเอาพยาธิออกมาจากปากได้
คุณหมอ ยังได้เล่าถึงพยาธิจำนวนมากที่เห็นในคลิปข้างต้นด้วยว่า เมื่อเรามีไข่พยาธิ ไข่ก็จะฟักออกมาเป็นตัวอ่อนเล็ก ๆ แล้วจะไปอยู่ที่ปอดระยะหนึ่ง ก่อนจะไต่เข้าไปที่หลอดอาหาร ซึ่งคนไข้อาจจะไม่รู้สึกอะไร แต่วันดีคืนดี พยาธิเพิ่มจำนวนขึ้นมาก ๆ จนไปอุดตันที่ลำไส้ คนไข้ก็จะรู้สึกปวดท้อง อาเจียน ต้องเข้ามาพบแพทย์ เพื่อทำการผ่าตัดออก อย่างไรก็ตาม ในบางคนอาจมีพยาธิเพียงแค่ตัวสองตัวเท่านั้น แต่ถ้าพยาธิเคลื่อนตัวไปอยู่ในอวัยวะสำคัญ เช่น ไส้ติ่ง ทางเดินน้ำดี แล้วเกิดการอุดตัน ก็อาจทำให้เกิดอันตรายได้เหมือนกัน ไม่เกี่ยวกับว่ามีจำนวนน้อยหรือมาก
ทั้งนี้ หลายคนอาจเคยรู้มาว่า ถ้าในลำไส้มีพยาธิ คนนั้นจะรู้สึกคันก้น เรื่องนี้ นพ.เผด็จ อธิบายว่า พยาธิที่ทำให้คันก้นคือ พยาธิเข็มหมุด ที่มีความยาวประมาณ 1 เซนติเมตร โดยสาเหตุที่ทำให้คนไข้รู้สึกคันก้นเป็นเพราะพยาธิเข็มหมุดตัวเมียมักจะ คลานออกมาจากลำไส้ใหญ่ แล้วมาออกไข่อยู่รอบ ๆ ก้น ทำให้เรารู้สึกระคายเคือง ถ้าเป็นเด็ก ๆ ก็มักจะใช้นิ้วเกาที่ก้น และอาจดูดนิ้วเข้าปาก แต่ที่น่ากลัวคือ พยาธิพวกนี้มีน้ำหนักเบาและเล็กมาก มันจึงสามารถแพร่เชื้อไปยังคนอื่น ๆ ผ่านทางอากาศได้ แม้แต่ผู้ใหญ่ก็สามารถติดจากเด็กได้เช่นกัน
จากพยาธิเข็มหมุด มาดูพยาธิใบไม้ตับกันบ้าง โดยพยาธิชนิดนี้มักอยู่ในพืชน้ำ เช่น ผักบุ้ง ผักกระเฉด และปลาน้ำจืดต่าง ๆ ส่วนพยาธิชนิดอื่น ๆ ก็มักพบในสัตว์ต่าง ๆ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู ไก่ กบ งู สัตว์น้ำจืดทั้งหลาย แม้แต่ปลาไหลก็พบพยาธิตัวจี๊ดที่หากทานเข้าไปแล้วจะมีอาการบวมตามผิวหนัง หรือหากเป็นพยาธิปากขอก็สามารถไชเข้าผิวหนังได้ ถ้าเราเดินเท้าเปล่าบนพื้นดินในบริเวณที่มีพยาธิ
มาถึงพยาธิตัวตืด พยาธิชนิดนี้จะอยู่ในเนื้อวัว และเนื้อหมูดิบ ๆ เรียกว่า พยาธิตืดวัว และตืดหมู โดยพยาธิตืดหมูจะอันตรายกว่า เพราะในปล้องมีไข่พยาธิปนอยู่ หากทานเข้าไปก็อาจเกิดเป็นเม็ดสาคูตามร่างกาย และอาจเข้าไปอยู่ในสมอง ซึ่งก่อให้เกิดอันตรายถึงชีวิต ดังนั้น หากจะรับประทานเนื้อหมู หรือเนื้อวัว ควรทานเนื้อที่สุกแล้วเท่านั้น เพื่อหลีกเลี่ยงพยาธิที่ปนอยู่
มาถึงตรงนี้ หลายคนคงสงสัยแล้วว่า จะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมีพยาธิในร่างกายหรือไม่ คุณหมอจึงอธิบายว่า หากเรารู้ตัวว่ามีพฤติกรรมการรับประทานอาหารสุก ๆ ดิบ ๆ ก็ให้ลองตรวจสอบอาการ โดยบางคนอาจมีอาการท้องเสียเรื้อรัง น้ำหนักลด มีอาการบวมตามจุดต่าง ๆ ก็ควรไปตรวจดูอุจจาระ และตรวจเลือดดู เพราะอาการแปลก ๆ นั้น อาจเกี่ยวข้องกับพยาธิได้
ส่วนที่หลายคนสงสัยว่า เราสามารถซื้อยาถ่ายพยาธิมาทานเองได้หรือไม่นั้น คุณหมอ ชี้แจงว่า ยาถ่ายพยาธิส่วนใหญ่จะฆ่าเฉพาะพยาธิตัวกลมในลำไส้เท่านั้น จะใช้ได้ผลบ้าง ในกรณีที่พยาธิไม่ได้ฝังตัวลงไปในลำไส้ หากพยาธิฝังเข้าไปอยู่ในอวัยวะส่วนที่สำคัญของร่างกายแล้ว ก็ต้องไปพบแพทย์ เพื่อให้แพทย์จ่ายยาฆ่าพยาธิให้ เพราะหากปล่อยทิ้งไว้ พยาธิอาจทำให้คนเสียชีวิตได้

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

กิ๊ฟซ่า เกิร์ลลี่เบอรี่ โดนจับเมาแล้วขับ เบ่งเป็นดาราไม่ยอมเป่า




กิ๊ฟซ่า เกิร์ลลี่เบอรี่ เมาแล้วขับถูกจับคาด่านไม่ยอมตรวจแอลกอฮอล์ เบ่งเป็นดารารู้จักนายตร. สุดท้ายยอมเป่าพบปริมาณแอลกอฮอล์ เกินกฏหมายกำหนด
(11 ก.ย) เมื่อเวลา 03.00 น.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสน.คลองตัด จับกุม น.ส.ปิยา พงศ์กุลภา หรือ กิ๊ฟซ่า วงเกิร์ลลี่เบอร์รี่ นักร้องชื่อดัง อายุ 28 ปี ในข้อหาเมาแล้วขับ ย่านพัฒนาการ 37 ซึ่งในตอนแรกที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเรียกตรวจ นักร้องคนดังกลับไม่ยอมเป่าปริมาณแอลกอฮอล์นานถึง 3 ชั่วโมง โดยบอกเป็นดาราและรู้จักนายตำรวจมากมาย พร้อมบอกว่าจะรอสร่างเมาแล้วค่อยเป่า เพราะไม่อยากขึ้นศาล แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจยืนยันจะขอตรวจปริมาณแอลกอฮอล์เพียงอย่างเดียวเท่านั้น
สุดท้ายกิ๊ฟซ่า จึงยอมเป่าพบระดับปริมาณแอลกอฮอล์ 82 มิลลิกรัมเปอร์เซนต์ ซึ่งเกินกฏหมายกำหนด โดยเจ้าตัวยอมรับว่าดื่มสุราจากสถานบันเทิงย่านทองหล่อ ตั้งแต่เวลา 22.00-01.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงนำตัวส่ง สน.คลองตัน เพื่อรอส่งศาลต่อไป
ล่าสุด พ.ต.ท.สง่า ปัญญา พนักงานสอบสวน (สบ.2) สน.คลองตัน เปิดเผยว่า กิ๊ฟซ่า ได้ใช้เงินสดจำนวน 20,000 บาท ประกันตัวออกไป และได้นัดหมายนักร้องสาวอีกครั้งในวันที่ 12 ก.ย. เพื่อนำตัวส่งฟ้องไปยังศาลจังหวัดพระโขนง