ในยุคที่โซเชียลเน็ตเวิร์กเข้าถึงผู้คนได้จำนวนมหาศาลเช่นนี้ หลาย ๆ ธุรกิจก็ได้มองเห็นช่องทาง และเลือกใช้ "การโฆษณา" ผ่านเครื่องมือในโลกไซเบอร์กันอย่างมากมาย จึงไม่น่าแปลกใจที่ระยะหลัง ๆ มานี้ ผู้ใช้เฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์ ตลอดจนโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่น ๆ มักจะถูกติดแท็ก ด้วยข้อความโฆษณาสุดแสนจะล่อใจที่ชวนให้มาสร้างรายได้เสริมอย่างเป็นกอบเป็นกำภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง กับงานสบาย ๆ รายได้งาม ที่ผู้ติดแท็กเสนอให้ หากมองดูเผิน ๆ ก็ดูน่าสนใจไม่น้อย แต่ถ้าพิจารณาและหาข้อมูลเชิงลึกแล้ว จะรู้ว่า นี่คือกลลวง!
เมื่อวันที่ 24 กันยายน หนังสือพิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ได้นำเสนอบทความที่น่าสนใจเรื่อง "ฝันสลาย วัยรุ่น พันล้าน" เพื่อตีแผ่ความจริงของโฆษณาชวนเชื่อที่ระบาดไปทั่วโลกอินเทอร์เน็ตในขณะนี้ โดยระบุว่า คนกลุ่มนี้ซึ่งทำกันเป็นขบวนการที่ใหญ่มาก เอาคำว่า "ขายตรง" มาบังหน้า แต่จริง ๆ แล้ว มีการดำเนินงานเป็นธุรกิจเครือข่ายด้านมืด โดยหลอกล่อ "เหยื่อ" ซึ่งพุ่งเป้าไปยังกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา คนรุ่นใหม่ที่ฝันอยากเป็นเศรษฐีเร็ว ๆ ให้มาติดกับ เพื่อสร้างผลตอบแทนให้พวกเขาเอง มากกว่าการมุ่งขายสินค้าในเครือข่ายอย่างที่ทำกันตามปกติ
ทั้งนี้ กระบวนการดังกล่าวเริ่มต้นจากการชักชวน "เหยื่อ" ที่สนใจอยากมีรายได้งาม ๆ มาร่วมประชุมกับองค์กรก่อน ซึ่งจะต้องเสียเงินค่าเรียน และต้องมาร่วมประชุมหลาย ๆ ครั้ง แน่นอนว่า สิ่งที่ได้จากการประชุมแต่ละครั้งก็คือ การถูกกรอกหูด้วยคำพูดสร้างแรงบันดาลใจ อย่างเช่น อย่าคิดแต่แบมือขอเงินพ่อแม่ หรือ ทำงานกินเงินเดือนแบบนี้อีกกี่สิบปีถึงจะรวย แต่หากทำงานกับเราไม่กี่เดือนก็มีเงินเป็นกอบเป็นกำแซงหน้าเพื่อน ๆ ได้แล้ว ฯลฯ
หนำซ้ำ หลายองค์กรยังเชิญคนมีชื่อเสียงมาช่วยพูดกระตุ้นแรงบันดาลใจให้ผู้ฟัง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้องค์กรด้วย ทำให้วัยรุ่นที่ฝันจะเป็นเศรษฐีชั่วข้ามคืนหลายคนหลงเชื่อเอาได้ง่าย ๆ พร้อมกับยินยอมควักเงินหลักหมื่นออกจากกระเป๋า เพราะตามวิธีการขององค์กรที่หลอกแบบเนียน ๆ ไม่ทัน
นอกจากกรณีแท็กโฆษณาข้างต้นแล้ว ยังมีกรณีเฟซบุ๊กถูกแฮก ที่เครือข่ายธุรกิจด้านมืดได้ใช้วิธีเอาของฟรีมาล่อผู้เล่นเฟซบุ๊ก ด้วยการชักชวนให้ผู้ที่สนใจสมัครร่วมกิจกรรมต้องล็อกอินเฟซบุ๊กก่อน ซึ่งหลายคนที่ได้ล็อกอินเข้าไปแทบไม่รู้ตัวเลยว่า ได้ยื่นพาสเวิร์ดของตัวเองเข้าปากเสือเสียแล้ว เมื่อเป็นเช่นนี้ การล้วงข้อมูลในเฟซบุ๊ก เพื่อทำการกระจายโฆษณาต่อกันไปเป็นทอด ๆ จึงเกิดขึ้นโดยไม่มีที่สิ้นสุด
หลังจากเกิดปัญหาเช่นนี้ขึ้น ทางเฟซบุ๊กก็ได้สั่งปรับระบบใหม่ เพื่อจัดการกับโฆษณาเหล่านี้ ซึ่งก็ได้ผลในระดับหนึ่ง แต่กลุ่มเครือข่ายธุรกิจด้านมืดก็เปลี่ยนไปใช้วิธีตั้ง "กรุ๊ปแชท" แทน พร้อมกับพยายามหาคนมาเข้าร่วมกลุ่มให้ได้จำนวนมาก ๆ แน่นอนว่า พวกเขาก็ยังใช้วิธีเดิม ๆ คือ ชวนให้ผู้สนใจมาประชุม ฟังคำพูดสร้างแรงบันดาลใจ ก่อนจะใช้คำพูดหว่านล้อม โน้มน้าวให้ "เหยื่อ" ยอมควักเงินทำธุรกิจแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว
แม้กลโกงเหล่านี้จะถูกแฉ และตีแผ่ให้เห็นเบื้องลึกเบื้องหลังกันมากขึ้น แต่เชื่อเถอะว่า เครือข่ายธุรกิจด้านมืดคงจะมีช่องทางอื่น ๆ มาหา "เหยื่อ" คนใหม่ ๆ ต่อไปอีก ซึ่งหลายคนที่คิดไม่ทัน หรือคิดว่า "งานสบาย รายได้งาม" มีอยู่จริง ก็อาจถูกหลอกเอาง่าย ๆ แต่ถ้าใครกำลังอยู่ในสถานการณ์เช่นนี้ ก็ขอให้ลองตรองดูเถอะว่า งานสบาย ๆ ที่ทำเพียง 2 - 3 ชั่วโมงก็ได้เงินมาก ๆ อย่างที่เขาโฆษณากันนั้น มันมีอยู่จริง ๆ หรือ แล้วถ้ามีจริง ๆ ทุกคนคงแห่กันไปทำหมดแล้ว คงไม่มีใครยอมมานั่งทำงานตัวเป็นเกลียว หัวเป็นน็อต เหมือนอย่างที่เป็นอยู่เช่นนี้แน่ ๆ เพราะใคร ๆ ก็ต้องการความสบายจริงไหม? เพราะฉะนั้น คำพูดเหล่านี้เป็นแค่การโฆษณาชวนเชื่อเท่านั้นเอง
ถ้าหากเรามี "สติ" ไม่หลงไปเชื่อคำพูดสวยหรูดูน่าฟัง ไม่ว่าเครือข่ายไหนจะงัดกลยุทธใด ๆ ออกมาใช้ ก็คงไม่สามารถลากให้เราเข้าไปเป็น "เหยื่อ" ได้แน่นอน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น